ถ้าคุณลองมองคนรู้จักรอบ ๆ ตัวคุณ คุณจะพบว่ามีคนมากมายที่ไม่มีความสุขกับงานที่ทำอยู่ และถ้าถามในรายละเอียดลงไปก็จะพบว่านี่ไม่ใช่งานแรกที่พวกเขารู้สึกว่างานไม่เหมาะกับตนเอง แต่งานก่อนหน้าก็มีปัญหาลักษณะเดียวกัน ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่ผู้คนเหล่านั้นก็มีหลายคนได้งานผ่านบริษัทจัดหางาน และเกือบทุกคนก็ใช้บริการของเว็บไซต์หางานที่มีระบบคัดกรองงานที่ทันสมัย เราสรุปสาเหตุของปัญหาดังกล่าวไว้ดังนี้
จริง ๆ แล้วคุณไม่เคยเป็นลูกค้าของบริษัทจัดหางาน เพราะงานที่บริษัทเหล่านี้ทำจริง ๆ คือบริษัทจัดหาคน
ถ้าคุณมีโอกาสได้ทำงานในธุรกิจของบริษัทจัดหางานมานานพอคุณจะสงสัยว่าทำไมเราถึงยังเรียกบริษัทที่ประกอบธุรกิจประเภทนี้ว่าบริษัทจัดหางาน เพราะสิ่งที่บริษัทเหล่านี้ทำนั้นคือการหาคนให้บริษัท แทบไม่มีครั้งไหนเลยที่บริษัทประเภทนี้หางานให้กับคนที่กำลังหางานอย่างคุณ
ดูผิวเผินแล้วคุณอาจคิดว่าถ้าคุณเดินเข้าไปในบริษัทจัดหางาน หลังจากที่พวกเขาสัมภาษณ์คุณ พวกเขาก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อหางานที่ดีและเหมาะสมให้แก่คุณ นี่เป็นความคิดที่ผิดมหันต์ จริง ๆ แล้ววิธีการทำงานของบริษัทเหล่านี้แตกต่างจากที่คุณคิดโดยสิ้นเชิง เพื่อให้คุณเห็นภาพเราจะอธิบายวิธีการทำงานรวมถึงเป้าหมายในการทำงานของบริษัทที่คนโดยทั่วไปเรียกว่าบริษัทจัดหางานให้คุณฟัง
สิ่งแรก ๆ ที่บริษัทจัดหางานจะต้องทำก็เหมือนกับธุรกิจบริการประเภทอื่น ๆ ก็คือการเข้าไปรับงานจากลูกค้า ซึ่งลูกค้านั้นไม่ใช่คนหางาน แต่คือบริษัทที่กำลังหาคน บริษัททุกบริษัทมีความต้องการในการหาคนมาร่วมงานด้วย และในหลายกรณีบริษัทต่าง ๆ ก็จะจ้างบริษัทจัดหางานให้มาช่วยหาคนที่ตรงกับความต้องการของพวกเขา แล้วก็จะจ่ายค่าธรรมเนียมการหาคนให้กับบริษัทจัดหางาน คราวนี้คุณก็จะสามารถเห็นได้ชัด ๆ แล้วว่าบริษัทจัดหางานไม่เคยหางานให้กับคน แต่หาคนให้กับบริษัท ตอนนี้คุณก็อาจจะมีความคิดว่าก็ไม่เป็นไรถึงแม้คุณจะไม่ได้เป็นลูกค้าของบริษัทจัดหางานจริง ๆ แต่สุดท้ายพวกเขาก็จะแนะนำคุณให้กับงานที่เหมาะกับคุณอยู่ดี ซึ่งนั่นเป็นความคิดที่ผิดอย่างสิ้นเชิง ในบางครั้งคุณอาจโชคดีที่งานที่บริษัทจัดหางานแนะนำมาให้บังเอิญเหมาะกับคุณ แต่มันมีความเสี่ยงมากเพราะพนักงานจัดหางานไม่เคยสนใจว่างานที่เขาได้รับมอบหมายจะเหมาะกับคุณจริง ๆ หรือไม่ สิ่งเดียวที่พนักงานจัดหางานส่วนใหญ่คิดคือโปรไฟล์ ประสบการณ์ และบุคคลิกของคุณดีเพียงพอที่พวกเขาจะ “ขาย” ให้นายจ้างของพวกเขาเชื่อและยินดีที่จะรับคุณเข้าทำงานหรือไม่ หลังจากที่บริษัทที่เป็นนายจ้างสนใจที่จะรับคุณเข้าทำงานแล้ว พนักงานจัดหางานก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะโน้มน้าวให้คุณเชื่อว่างานใหม่ที่พวกเขาเสนอมาให้คุณนั้นช่างเป็นงานที่วิเศษและเหมาะกับคุณจริง ๆ เพราะเมื่อคุณตกลงร่วมงานกับบริษัทของนายจ้างของพวกเขา พนักงานจัดหางานก็จะสามารถปิดงานนั้นและได้รับคอมมิสชั่นซึ่งบางคนอาจได้เป็นแสนต่อเดือน ซึ่งผู้คนหลายคนอาจเคยเจอประสบการณ์การให้บริการที่ไม่ค่อยดีจากพนักงานจัดหางาน บางคนแทบไม่อยากจะคุยกับคุณเลย ซึ่งคุณอย่าไปว่าพวกเขาเลย เพราะจริง ๆ งานของพนักงานจัดหางานค่อนข้างหนักมาก พนักงานจัดหางานหนึ่งคนโดยเฉลี่ยจะรับผิดชอบงานประมาณ 15-20 งาน บางคนอาจรับผิดชอบงานถึง 30 งาน ด้วยปริมาณงานขนาดนี้พวกเขาต้องดูเรซูเม่ของคนหางานมากกว่า 300 ฉบับต่อสัปดาห์ ต้องสัมภาษณ์ผู้คนทั้งต่อหน้าและทางโทรศัพท์มากกว่า 30-50 คนต่อสัปดาห์ สิ่งที่เป็นตัวแปรความสำเร็จที่สำคัญที่สุดของพวกเขาคือการบริหารเวลา ดังนั้นถ้าคุณไม่มีโปรไฟล์ที่พวกเขากำลังมองหาอยู่พวกเขาจะไม่ยอมเสียเวลาอันมีค่าไปกับการสนทนากับคุณเด็ดขาด คราวนี้ถ้าคุณยังคิดอยู่ว่าบริษัทจัดหางานช่วยคุณคัดกรองงานและหางานที่ดีและเหมาะที่สุดให้แก่คุณ แล้วคุณก็ยินดีจะเชื่อทุกอย่างที่พวกเขาบอกคุณ คุณอาจต้องทนกับปัญหาชีวิตการทำงานอีกยาวนานก็เป็นได้