KEEN Career Finder นวัตกรรมของ KEEN Profile ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับการบ่งชี้ความเป็นตัวตนของคุณในด้าน Professional Career โดยเฉพาะ ซึ่ง KEEN Career Finder นั้นสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในด้านของการสร้างการทำงานแบบร่วมไม้ร่วมมือ (Collaboration) หรือการลดปัญหาความขัดแย้งในองค์กร, การวางแผนพัฒนาทักษะต่าง ๆ ให้กับพนักงาน, การวางกลยุทธ์องค์กรในด้านบุคลากรหรือการสร้าง Employer Branding และการสรรหาทรัพยากรบุคคลให้ตรงตามความต้องการในตำแหน่งงานหรือวัฒนธรรมของกลุ่มงานนั้น ๆ เป็นต้น
KEEN Career Finder นั้น ประกอบไปด้วย 3 ส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่
ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงอัจฉริยภาพทุกด้านที่ถูกระบุไว้ใน Working Geniuses ของ KEEN Career Finder เพื่อให้คุณเห็นภาพความเชื่อมโยงและความแตกต่างของแต่ละอัจฉริยภาพได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
จากงานวิจัยของ KEEN Profile อัจฉริยภาพการทำงานนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็นทั้งหมด 3 ด้านด้วยกัน ได้แก่
โดยจะเห็นได้ว่าในการทำงานของเราในแต่ละวันอัจฉริยภาพทั้งสามด้านนี้ต่างทำงานร่วมกัน แต่อาจจะมีบางด้านที่ถูกนำมาใช้มากหรือน้อยแตกต่างกันไป อัจฉริยภาพในการทำงานนี้เกิดจากประสบการณ์ที่สั่งสมของเราในการทำงานหรือการใช้ชีวิตจนทำให้เราสามารถทำบางสิ่งบางอย่างได้ดี ร่วมกันกับงานหรือสิ่งที่เราชอบทำเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น คุณเป็นผู้จัดการโครงการมาโดยตลอดช่วงชีวิตในการทำงานประจำของคุณ โดยที่คุณมีงานอดิเรกเป็นการวาดภาพวิวทิวทัศน์ จากการเป็นผู้จัดการโครงการมาเกือบตลอดชีวิตอาจมีบางอยย่างที่คุณไม่ชอบในงาน หรือคุณชอบเป็นอย่างมากในงานนี้ และที่แน่นอนจะต้องมีบางอย่างที่คุณทำได้ดีเป็นอย่างมากในหน้าที่การงานนี้ จากกรณีตัวอย่างสิ่งที่ทำได้ดีอาจเป็นเรื่องของการจัดการเวลา (Time Management) หรือ การจัดสรรแบ่งส่วนงาน (Delegating) อย่างไรก็ตาม งานอดิเรกที่คุณรักคือการวาดภาพ อัจฉริยภาพที่คุณมีอาจเป็นเรื่องของ ความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) บางครั้งคุณอาจจะเผลอเอาอัจฉริยภาพด้านความคิดสร้างสรรค์นี้มาใช้ในการสร้างสรรค์รายงานหรือนำเสนอรูปแบบ Framework ใหม่ ๆ ให้งานประจำของคุณแบบที่คุณเองก็ไม่รู้ตัว
ตารางด้านล่าง คือ คำอธิบายอัจฉริยภาพทั้ง 3 ด้านโดยสังเขป โดยทำการแบ่งอัจฉริยภาพแยกย่อยในแต่ละด้านได้อีกด้านละ 6 อัจฉริยภาพ ดังนี้
ด้านความคิด
ด้านการปฏิสัมพันธ์
ด้านการปฏิบัติ
การเข้าใจอัจฉริยภาพในการทำงานของตัวเราเองนั้น ไม่เพียงแต่ทำให้เราทราบถึงสิ่งที่เราชอบถนัดและทำได้ดีแล้ว แต่สามารถช่วยให้เราเฝ้าระวังในสิ่งที่ไม่ใช่สิ่งที่เราชอบหรือถนัดได้อีกด้วย สิ่งในการทำงานเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ การทราบในจุดนี้จะทำให้เราประยุกต์และปรับตัวให้ทันต่อแต่ละบุคคล และหากเราทราบอัจฉริยภาพของฝ่ายตรงข้ามหรือทีมของเราด้วยแล้วนั้น การทำงานแบบร่วมไม้ร่วมมือหรือการลดความขัดแย้งให้เกิดขึ้นก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป